Published Apr 21, 2025 ⦁ 2 min read

เรียนรู้วิธีการปรับปรุง ROAS ที่ต่ำ ด้วยกลยุทธ์การตลาดที่มีประสิทธิภาพและการวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายที่ถูกต้อง.

ROAS ต่ำ แก้ยังไง? 7 สาเหตุและวิธีแก้ปัญหาแบบเร่งด่วน

ROAS ต่ำ แก้ยังไง? 7 สาเหตุและวิธีแก้ปัญหาแบบเร่งด่วน

ROAS ต่ำทำให้ธุรกิจเสียโอกาสในการทำกำไรและเติบโตได้ยาก แต่คุณสามารถแก้ไขได้ทันทีด้วยการปรับกลยุทธ์ทางการตลาดที่ตรงจุด!

สาเหตุหลักที่ ROAS ต่ำและวิธีแก้ไข:

  1. กำหนดกลุ่มเป้าหมายผิด – ปรับ Audience Insights และตั้งค่ากลุ่มเป้าหมายใหม่ใน Facebook Ads Manager
  2. เนื้อหาโฆษณาไม่น่าสนใจ – ทดสอบข้อความและภาพโฆษณาใหม่ที่เชื่อมโยงกับผู้ชม
  3. หน้า Landing Page ไม่ดีพอ – ปรับปรุงให้โหลดเร็วและใช้งานง่าย
  4. ไม่มี Conversion Tracking – ติดตั้ง Facebook Pixel เพื่อติดตามผลลัพธ์
  5. จัดการงบประมาณไม่เหมาะสม – แบ่งงบสำหรับทดสอบและเพิ่มในแคมเปญที่ได้ผล
  6. ข้อเสนอสินค้าไม่น่าสนใจ – ทบทวนโปรโมชั่นหรือเพิ่มมูลค่าให้ลูกค้า
  7. ไม่ทดสอบ A/B – ทดลองโฆษณาหลายรูปแบบเพื่อหาสิ่งที่ได้ผลดีที่สุด

เริ่มต้นง่าย ๆ:

  • ติดตั้ง Conversion Tracking
  • ปรับกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน
  • ทดลองเนื้อหาโฆษณาใหม่

แก้ ROAS ต่ำได้ทันที! เริ่มปรับกลยุทธ์วันนี้เพื่อเพิ่มยอดขายและผลกำไร.

Modern Direct Response Marketing วิธีทำการตลาดออนไลน์อย่าง ...

พื้นฐาน ROAS สำหรับตลาดไทย

สูตรการคำนวณ ROAS คือ:

ROAS = (รายได้จากแคมเปญโฆษณา ÷ ค่าใช้จ่ายในการโฆษณา) × 100%

ตัวอย่าง: หากคุณใช้งบโฆษณา 10,000 บาท และสร้างรายได้ 35,000 บาท ROAS ของคุณจะเท่ากับ 350% หรือ 3.5:1

ปัจจัยสำคัญที่ช่วยกำหนดเป้าหมาย ROAS สำหรับธุรกิจในไทย ได้แก่:

  • อัตรากำไรขั้นต้น: ธุรกิจที่มีมาร์จิ้นสูงสามารถตั้งเป้าหมาย ROAS ที่ต่ำกว่าได้ เนื่องจากกำไรต่อหน่วยสูง
  • มูลค่าตลอดชีพของลูกค้า (CLV): หากลูกค้ามีมูลค่าตลอดชีพสูง ธุรกิจอาจยอมรับ ROAS เริ่มต้นต่ำเพื่อสร้างความสัมพันธ์ระยะยาว

เมื่อคุณเข้าใจการคำนวณและปัจจัยที่ส่งผลต่อ ROAS แล้ว ต่อไปเราจะพูดถึง 7 สาเหตุที่ทำให้ ROAS ต่ำ พร้อมวิธีแก้ไขอย่างเร่งด่วน

7 สาเหตุที่ทำให้ ROAS ต่ำและวิธีแก้ไข

ตรวจสอบแต่ละปัจจัยด้านล่างและลงมือแก้ไขทันที เพื่อปรับปรุง ROAS ให้กลับมาดีขึ้น

1. การเลือกกลุ่มเป้าหมายไม่ตรงจุด

หากกำหนดกลุ่มเป้าหมายไม่ชัดเจน งบโฆษณาอาจถูกใช้ไปโดยเปล่าประโยชน์ แก้ไขได้ดังนี้:

  • ปรับตั้งค่ากลุ่มเป้าหมายใน Facebook Ads Manager: ระบุพื้นที่ เพศ และอายุให้ชัดเจน
  • วิเคราะห์ข้อมูลด้วย Audience Insights: ศึกษาพฤติกรรมและความชอบของกลุ่มเป้าหมาย
  • ใช้ Behavior Targeting: กรองกลุ่มเป้าหมายที่มีแนวโน้มซื้อสินค้าหรือบริการมากที่สุด

2. เนื้อหาโฆษณาไม่น่าสนใจ

โฆษณาที่ไม่ดึงดูดหรือไม่เชื่อมโยงกับผู้ชม อาจทำให้อัตราการตอบสนองต่ำ วิธีปรับปรุง:

  • เล่าเรื่องด้วยอารมณ์และวัฒนธรรมไทย: สร้างความเชื่อมโยงกับผู้ชมผ่านเรื่องราวที่เข้าถึงได้ง่าย
  • วิเคราะห์ผลจากแคมเปญก่อนหน้า: ปรับข้อความและภาพให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย
  • ทดลองโฆษณาหลายรูปแบบ: ทดสอบเพื่อค้นหาเนื้อหาที่ได้ผลดีที่สุด
sbb-itb-4ffe5b5

แนวทางการจัดลำดับความสำคัญในการแก้ปัญหา ROAS

จากสาเหตุทั้ง 7 ข้อ สามารถจัดลำดับความสำคัญของกลยุทธ์แก้ไขได้ โดยพิจารณาจาก ผลกระทบต่อ ROAS และ ความยากง่ายในการดำเนินการ ดังนี้:

  • ผลกระทบต่อ ROAS สูง + ความยากต่ำ
    • ปรับกลุ่มเป้าหมาย
    • ปรับเนื้อหาโฆษณา
  • ผลกระทบต่อ ROAS สูง + ความยากปานกลาง
    • ปรับปรุงหน้า Landing Page
  • ผลกระทบต่อ ROAS ปานกลาง + ความยากต่ำ
    • ติดตั้ง Conversion Tracking
    • จัดการงบประมาณโฆษณา
  • ผลกระทบต่อ ROAS ปานกลาง + ความยากปานกลาง
    • ทบทวนโฟกัสสินค้าและข้อเสนอ
  • ผลกระทบต่อ ROAS ต่ำ + ความยากสูง
    • การทดสอบ A/B

การจัดลำดับนี้ช่วยให้คุณเริ่มต้นแก้ไขปัญหาที่ส่งผลต่อ ROAS ได้มากและง่ายที่สุดก่อน เพื่อให้การปรับปรุงมีประสิทธิภาพและเห็นผลเร็วขึ้น.

ขั้นตอนการปรับปรุง ROAS

เมื่อจัดลำดับความสำคัญตามแนวทางแล้ว ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อปรับปรุง ROAS ให้เห็นผลชัดเจน:

1. ตั้งเป้าหมายและติดตั้งระบบวัดผล

เริ่มด้วยการติดตั้ง Facebook Pixel และตั้งค่า Conversion Tracking ใน Ads Manager เพื่อให้สามารถติดตามผลลัพธ์ได้อย่างแม่นยำ จากนั้นกำหนด KPI ของแคมเปญที่สอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจ เช่น ยอดขายหรือการลงทะเบียน

2. วิเคราะห์และปรับแต่งกลุ่มเป้าหมาย

ใช้ Audience Insights เพื่อปรับแต่งข้อมูลประชากร ความสนใจ และพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย ลองทดสอบกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ เพื่อดูว่าแบบใดให้ผลลัพธ์ดีที่สุด

3. ออกแบบและทดสอบครีเอทีฟ

สร้างครีเอทีฟในหลายรูปแบบ เช่น รูปภาพ วิดีโอ หรือ carousel ads จากนั้นทำ A/B Testing เพื่อหาครีเอทีฟที่ให้ผลลัพธ์ดีที่สุดในแง่ของ CTR และ Conversion

4. จัดสรรงบประมาณและปรับกลยุทธ์การประมูล

แบ่งงบประมาณออกเป็นส่วนหลักและส่วนสำหรับการทดสอบ จากนั้นปรับสัดส่วนงบประมาณและเลือกกลยุทธ์การประมูลที่เหมาะสมตามผลลัพธ์ที่ได้

5. ติดตามและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง

ตรวจสอบผลลัพธ์ใน Ads Manager วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก และปรับปรุงโฆษณา กลุ่มเป้าหมาย และการประมูลตามข้อมูลที่ได้รับ

6. ขยายผลจากแคมเปญที่ประสบความสำเร็จ

สำหรับแคมเปญที่ได้ผลลัพธ์ดี ให้เพิ่มงบประมาณและขยายไปยังกลุ่มเป้าหมายหรือพื้นที่ใหม่ พร้อมทั้งเก็บข้อมูลกลุ่มเป้าหมายและครีเอทีฟที่ทำงานได้ดีเพื่อใช้ในอนาคต

ขั้นตอนต่อไป

เมื่อปรับกลยุทธ์ตามขั้นตอนแล้ว คุณสามารถนำคำแนะนำเหล่านี้ไปใช้เพื่อประเมินผลและเดินหน้าต่อ:

  • ปรึกษาฟรีกับ VenueE Performance Marketing หากคุณกำลังเผชิญปัญหา ROAS ต่ำ
    ทีมงานจะช่วยวิเคราะห์แคมเปญ ตั้งเป้าหมายและ KPI พร้อมวางโครงสร้างแคมเปญและงบประมาณให้เหมาะสม
  • โปร่งใสและตรวจสอบได้
    VenueE จัดการงบโฆษณามากกว่า 150 ล้านบาทต่อปี พร้อมประชุมอัปเดตผลทุก 2 สัปดาห์ เพื่อปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับเป้าหมาย

ติดต่อ VenueE วันนี้ เพื่อเริ่มต้นปรับปรุง ROAS และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายโฆษณาของคุณ!

venuee performance marketing agency team
ต้องการเพิ่มยอดขาย?
ให้เราช่วยประเมินและวางแผนการตลาด เพื่อปรับ ROI ให้เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ