เรียนรู้วิธีการปรับปรุง ROAS ที่ต่ำ ด้วยกลยุทธ์การตลาดที่มีประสิทธิภาพและการวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายที่ถูกต้อง.

ROAS ต่ำ แก้ยังไง? 7 สาเหตุและวิธีแก้ปัญหาแบบเร่งด่วน
ROAS ต่ำทำให้ธุรกิจเสียโอกาสในการทำกำไรและเติบโตได้ยาก แต่คุณสามารถแก้ไขได้ทันทีด้วยการปรับกลยุทธ์ทางการตลาดที่ตรงจุด!
สาเหตุหลักที่ ROAS ต่ำและวิธีแก้ไข:
- กำหนดกลุ่มเป้าหมายผิด – ปรับ Audience Insights และตั้งค่ากลุ่มเป้าหมายใหม่ใน Facebook Ads Manager
- เนื้อหาโฆษณาไม่น่าสนใจ – ทดสอบข้อความและภาพโฆษณาใหม่ที่เชื่อมโยงกับผู้ชม
- หน้า Landing Page ไม่ดีพอ – ปรับปรุงให้โหลดเร็วและใช้งานง่าย
- ไม่มี Conversion Tracking – ติดตั้ง Facebook Pixel เพื่อติดตามผลลัพธ์
- จัดการงบประมาณไม่เหมาะสม – แบ่งงบสำหรับทดสอบและเพิ่มในแคมเปญที่ได้ผล
- ข้อเสนอสินค้าไม่น่าสนใจ – ทบทวนโปรโมชั่นหรือเพิ่มมูลค่าให้ลูกค้า
- ไม่ทดสอบ A/B – ทดลองโฆษณาหลายรูปแบบเพื่อหาสิ่งที่ได้ผลดีที่สุด
เริ่มต้นง่าย ๆ:
- ติดตั้ง Conversion Tracking
- ปรับกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน
- ทดลองเนื้อหาโฆษณาใหม่
แก้ ROAS ต่ำได้ทันที! เริ่มปรับกลยุทธ์วันนี้เพื่อเพิ่มยอดขายและผลกำไร.
Modern Direct Response Marketing วิธีทำการตลาดออนไลน์อย่าง ...
พื้นฐาน ROAS สำหรับตลาดไทย
สูตรการคำนวณ ROAS คือ:
ROAS = (รายได้จากแคมเปญโฆษณา ÷ ค่าใช้จ่ายในการโฆษณา) × 100%
ตัวอย่าง: หากคุณใช้งบโฆษณา 10,000 บาท และสร้างรายได้ 35,000 บาท ROAS ของคุณจะเท่ากับ 350% หรือ 3.5:1
ปัจจัยสำคัญที่ช่วยกำหนดเป้าหมาย ROAS สำหรับธุรกิจในไทย ได้แก่:
- อัตรากำไรขั้นต้น: ธุรกิจที่มีมาร์จิ้นสูงสามารถตั้งเป้าหมาย ROAS ที่ต่ำกว่าได้ เนื่องจากกำไรต่อหน่วยสูง
- มูลค่าตลอดชีพของลูกค้า (CLV): หากลูกค้ามีมูลค่าตลอดชีพสูง ธุรกิจอาจยอมรับ ROAS เริ่มต้นต่ำเพื่อสร้างความสัมพันธ์ระยะยาว
เมื่อคุณเข้าใจการคำนวณและปัจจัยที่ส่งผลต่อ ROAS แล้ว ต่อไปเราจะพูดถึง 7 สาเหตุที่ทำให้ ROAS ต่ำ พร้อมวิธีแก้ไขอย่างเร่งด่วน
7 สาเหตุที่ทำให้ ROAS ต่ำและวิธีแก้ไข
ตรวจสอบแต่ละปัจจัยด้านล่างและลงมือแก้ไขทันที เพื่อปรับปรุง ROAS ให้กลับมาดีขึ้น
1. การเลือกกลุ่มเป้าหมายไม่ตรงจุด
หากกำหนดกลุ่มเป้าหมายไม่ชัดเจน งบโฆษณาอาจถูกใช้ไปโดยเปล่าประโยชน์ แก้ไขได้ดังนี้:
- ปรับตั้งค่ากลุ่มเป้าหมายใน Facebook Ads Manager: ระบุพื้นที่ เพศ และอายุให้ชัดเจน
- วิเคราะห์ข้อมูลด้วย Audience Insights: ศึกษาพฤติกรรมและความชอบของกลุ่มเป้าหมาย
- ใช้ Behavior Targeting: กรองกลุ่มเป้าหมายที่มีแนวโน้มซื้อสินค้าหรือบริการมากที่สุด
2. เนื้อหาโฆษณาไม่น่าสนใจ
โฆษณาที่ไม่ดึงดูดหรือไม่เชื่อมโยงกับผู้ชม อาจทำให้อัตราการตอบสนองต่ำ วิธีปรับปรุง:
- เล่าเรื่องด้วยอารมณ์และวัฒนธรรมไทย: สร้างความเชื่อมโยงกับผู้ชมผ่านเรื่องราวที่เข้าถึงได้ง่าย
- วิเคราะห์ผลจากแคมเปญก่อนหน้า: ปรับข้อความและภาพให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย
- ทดลองโฆษณาหลายรูปแบบ: ทดสอบเพื่อค้นหาเนื้อหาที่ได้ผลดีที่สุด
sbb-itb-4ffe5b5
แนวทางการจัดลำดับความสำคัญในการแก้ปัญหา ROAS
จากสาเหตุทั้ง 7 ข้อ สามารถจัดลำดับความสำคัญของกลยุทธ์แก้ไขได้ โดยพิจารณาจาก ผลกระทบต่อ ROAS และ ความยากง่ายในการดำเนินการ ดังนี้:
-
ผลกระทบต่อ ROAS สูง + ความยากต่ำ
- ปรับกลุ่มเป้าหมาย
- ปรับเนื้อหาโฆษณา
-
ผลกระทบต่อ ROAS สูง + ความยากปานกลาง
- ปรับปรุงหน้า Landing Page
-
ผลกระทบต่อ ROAS ปานกลาง + ความยากต่ำ
- ติดตั้ง Conversion Tracking
- จัดการงบประมาณโฆษณา
-
ผลกระทบต่อ ROAS ปานกลาง + ความยากปานกลาง
- ทบทวนโฟกัสสินค้าและข้อเสนอ
-
ผลกระทบต่อ ROAS ต่ำ + ความยากสูง
- การทดสอบ A/B
การจัดลำดับนี้ช่วยให้คุณเริ่มต้นแก้ไขปัญหาที่ส่งผลต่อ ROAS ได้มากและง่ายที่สุดก่อน เพื่อให้การปรับปรุงมีประสิทธิภาพและเห็นผลเร็วขึ้น.
ขั้นตอนการปรับปรุง ROAS
เมื่อจัดลำดับความสำคัญตามแนวทางแล้ว ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อปรับปรุง ROAS ให้เห็นผลชัดเจน:
1. ตั้งเป้าหมายและติดตั้งระบบวัดผล
เริ่มด้วยการติดตั้ง Facebook Pixel และตั้งค่า Conversion Tracking ใน Ads Manager เพื่อให้สามารถติดตามผลลัพธ์ได้อย่างแม่นยำ จากนั้นกำหนด KPI ของแคมเปญที่สอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจ เช่น ยอดขายหรือการลงทะเบียน
2. วิเคราะห์และปรับแต่งกลุ่มเป้าหมาย
ใช้ Audience Insights เพื่อปรับแต่งข้อมูลประชากร ความสนใจ และพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย ลองทดสอบกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ เพื่อดูว่าแบบใดให้ผลลัพธ์ดีที่สุด
3. ออกแบบและทดสอบครีเอทีฟ
สร้างครีเอทีฟในหลายรูปแบบ เช่น รูปภาพ วิดีโอ หรือ carousel ads จากนั้นทำ A/B Testing เพื่อหาครีเอทีฟที่ให้ผลลัพธ์ดีที่สุดในแง่ของ CTR และ Conversion
4. จัดสรรงบประมาณและปรับกลยุทธ์การประมูล
แบ่งงบประมาณออกเป็นส่วนหลักและส่วนสำหรับการทดสอบ จากนั้นปรับสัดส่วนงบประมาณและเลือกกลยุทธ์การประมูลที่เหมาะสมตามผลลัพธ์ที่ได้
5. ติดตามและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
ตรวจสอบผลลัพธ์ใน Ads Manager วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก และปรับปรุงโฆษณา กลุ่มเป้าหมาย และการประมูลตามข้อมูลที่ได้รับ
6. ขยายผลจากแคมเปญที่ประสบความสำเร็จ
สำหรับแคมเปญที่ได้ผลลัพธ์ดี ให้เพิ่มงบประมาณและขยายไปยังกลุ่มเป้าหมายหรือพื้นที่ใหม่ พร้อมทั้งเก็บข้อมูลกลุ่มเป้าหมายและครีเอทีฟที่ทำงานได้ดีเพื่อใช้ในอนาคต
ขั้นตอนต่อไป
เมื่อปรับกลยุทธ์ตามขั้นตอนแล้ว คุณสามารถนำคำแนะนำเหล่านี้ไปใช้เพื่อประเมินผลและเดินหน้าต่อ:
-
ปรึกษาฟรีกับ VenueE Performance Marketing หากคุณกำลังเผชิญปัญหา ROAS ต่ำ
ทีมงานจะช่วยวิเคราะห์แคมเปญ ตั้งเป้าหมายและ KPI พร้อมวางโครงสร้างแคมเปญและงบประมาณให้เหมาะสม -
โปร่งใสและตรวจสอบได้
VenueE จัดการงบโฆษณามากกว่า 150 ล้านบาทต่อปี พร้อมประชุมอัปเดตผลทุก 2 สัปดาห์ เพื่อปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับเป้าหมาย
ติดต่อ VenueE วันนี้ เพื่อเริ่มต้นปรับปรุง ROAS และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายโฆษณาของคุณ!
