Published Apr 14, 2025 ⦁ 3 min read

ปรับกลยุทธ์การตลาดให้เหมาะสมกับผู้บริโภคที่อ่อนไหวต่อราคา โดยใช้ข้อมูลและวิธีการที่มีประสิทธิภาพ.

วิธีปรับกลยุทธ์การตลาดให้เหมาะกับผู้บริโภคที่อ่อนไหวต่อราคา

วิธีปรับกลยุทธ์การตลาดให้เหมาะกับผู้บริโภคที่อ่อนไหวต่อราคา

ในยุคที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับราคามากขึ้น ธุรกิจต้องปรับตัวอย่างไร?

นี่คือแนวทางสำคัญ:

  • เข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภค: ผู้บริโภคไทยมักเปรียบเทียบราคาและมองหาความคุ้มค่า โดยเฉพาะในช่วงเศรษฐกิจไม่แน่นอน
  • ปรับราคาที่เน้นคุณค่า: เสนอดีลแพ็กเกจ, ส่วนลด, หรือโปรแกรมสะสมคะแนนที่ช่วยเพิ่มความคุ้มค่า
  • การตลาดเจาะกลุ่มเป้าหมาย: ใช้ข้อมูลลูกค้าสร้างแคมเปญที่ตรงใจและปรับได้ตามผลลัพธ์
  • เลือกช่องทางที่คุ้มค่า: โฆษณาบนโซเชียลมีเดียและ Performance Marketing ช่วยควบคุมงบและวัดผลได้ชัดเจน
  • โปร่งใสเรื่องราคา: แจ้งราคาสุทธิและเงื่อนไขต่าง ๆ อย่างชัดเจน

ตารางเปรียบเทียบการตลาดแบบดั้งเดิมกับ Performance Marketing

หัวข้อ วิธีดั้งเดิม Performance Marketing
การวัดผล ยากและไม่ชัดเจน วัดผลได้แบบเรียลไทม์
การปรับแคมเปญ ต้องรอผลนาน ปรับได้ทันทีตามผลลัพธ์
ความคุ้มค่า ประเมินได้ยาก คำนวณ ROI ได้แม่นยำ
ความเสี่ยง สูง ต่ำ

สรุป: การตลาดที่เน้นข้อมูลและปรับกลยุทธ์ตามพฤติกรรมผู้บริโภคช่วยให้ธุรกิจตอบสนองความต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า.

ความอ่อนไหวต่อราคาในประเทศไทย

พื้นฐานของความอ่อนไหวต่อราคา

ความอ่อนไหวต่อราคา (Price Sensitivity) มีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคในประเทศไทย โดยเฉพาะในช่วงเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน ผู้บริโภคมักจะใช้จ่ายอย่างระมัดระวังและให้ความสำคัญกับการเปรียบเทียบราคาก่อนที่จะตัดสินใจซื้อสินค้า

มีปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อความอ่อนไหวด้านราคา เช่น:

  • การรับรู้คุณค่า: ผู้บริโภคจะพิจารณาว่าสินค้าหรือบริการนั้นคุ้มค่ากับราคาหรือไม่
  • ตัวเลือกในตลาด: หากมีสินค้าหรือบริการทดแทนในตลาดมาก ความอ่อนไหวต่อราคาก็จะเพิ่มขึ้น
  • ความสำคัญของสินค้า: สินค้าที่จำเป็นในชีวิตประจำวันมักจะมีความอ่อนไหวต่อราคาน้อยกว่าสินค้าฟุ่มเฟือย

ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้เราเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคได้ดีขึ้นและเป็นพื้นฐานสำหรับการวางแผนการตลาดในขั้นต่อไป

ปัจจัยที่ส่งผลต่อความอ่อนไหวด้านราคาของผู้บริโภคไทย

การเข้าใจปัจจัยที่มีผลต่อความอ่อนไหวด้านราคาสามารถช่วยให้ธุรกิจวางกลยุทธ์ได้ตรงจุดมากขึ้น ปัจจัยหลักที่ควรพิจารณามีดังนี้:

1. รายได้และค่าครองชีพ

  • ค่าครองชีพในเมืองใหญ่ เช่น กรุงเทพฯ และเชียงใหม่ มักสูงกว่าพื้นที่อื่น
  • รายได้ที่ไม่แน่นอน โดยเฉพาะในกลุ่มแรงงานอิสระหรือผู้ที่ทำงานในภาคเศรษฐกิจที่ผันผวน
  • ภาระหนี้ เช่น หนี้บ้านหรือหนี้บัตรเครดิต ซึ่งส่งผลต่อกำลังซื้อ

2. พฤติกรรมการจับจ่าย

  • การเติบโตของการซื้อสินค้าออนไลน์ ทำให้ผู้บริโภคสามารถเปรียบเทียบราคาจากหลายร้านได้ง่ายขึ้น
  • ความนิยมในการรอโปรโมชันหรือส่วนลดก่อนตัดสินใจซื้อ
  • การใช้เครื่องมือเปรียบเทียบราคา เช่น แอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ที่รวบรวมข้อมูลสินค้า

3. ปัจจัยทางสังคม

  • อิทธิพลจากสื่อสังคมออนไลน์ เช่น การรีวิวสินค้า หรือการแนะนำจากผู้มีอิทธิพลในโลกออนไลน์
  • ความนิยมในกระแสการประหยัดและการใช้จ่ายอย่างมีเหตุผล
  • การแชร์ประสบการณ์การจับจ่ายกับเพื่อนหรือครอบครัว ซึ่งอาจส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อ

การวิเคราะห์ปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้ธุรกิจสามารถกำหนดราคาที่เหมาะสมและสื่อสารคุณค่าของสินค้าได้ตรงใจผู้บริโภคมากขึ้น

วิธีการตลาดสำหรับผู้บริโภคที่อ่อนไหวต่อราคา

การกำหนดราคาที่เน้นคุณค่า

การตั้งราคาที่เน้นคุณค่าเป็นวิธีที่ช่วยดึงดูดลูกค้าที่คำนึงถึงราคา โดยเน้นไปที่สิ่งที่ลูกค้าจะได้รับอย่างคุ้มค่า ตัวอย่างที่ใช้ได้มีดังนี้:

การสร้างแพ็กเกจราคาพิเศษ

  • รวมสินค้าหรือบริการหลายรายการเข้าไว้ในแพ็กเกจที่ดูคุ้มค่า
  • เสนอส่วนลดเมื่อซื้อสินค้าในจำนวนมาก
  • เพิ่มสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อซ้ำหรือเป็นลูกค้าประจำ

โปรแกรมสะสมคะแนน

  • ออกแบบระบบสะสมคะแนนเพื่อกระตุ้นการซื้อซ้ำ
  • แบ่งระดับสมาชิก พร้อมมอบสิทธิพิเศษตามยอดใช้จ่าย
  • ตั้งเงื่อนไขการแลกคะแนนที่เข้าใจง่ายและให้ผลตอบแทนที่ดี

การสื่อสารราคาอย่างชัดเจน

การแสดงข้อมูลราคาที่โปร่งใสสามารถสร้างความไว้วางใจให้กับลูกค้าได้ โดยมีแนวทางดังนี้:

การแสดงราคาที่โปร่งใส

  • ระบุราคาสุทธิที่ลูกค้าต้องจ่ายจริงอย่างชัดเจน
  • แจ้งค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าจัดส่งหรือภาษี
  • ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเงื่อนไขการคืนเงินแบบละเอียด

การเสนอวิธีชำระเงินที่หลากหลาย

  • เสนอทางเลือกการผ่อนชำระ พร้อมแสดงรายละเอียดค่าใช้จ่ายครบถ้วน
  • รองรับวิธีการชำระเงินหลายรูปแบบ เช่น บัตรเครดิต หรือการโอนเงิน

จากนี้ การใช้กลยุทธ์การตลาดที่เน้นกลุ่มเป้าหมายจะช่วยปรับข้อเสนอให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น

การตลาดแบบเจาะกลุ่มเป้าหมาย

การตลาดที่เน้นกลุ่มเป้าหมายช่วยให้ข้อเสนอของคุณตอบโจทย์ลูกค้าได้มากขึ้น VenueE Performance Marketing แนะนำวิธีการดังนี้:

การใช้ข้อมูลเพื่อพัฒนาแคมเปญ

  • วิเคราะห์พฤติกรรมการซื้อของลูกค้า เพื่อนำเสนอข้อเสนอที่เหมาะสม
  • ปรับแต่งเนื้อหาให้ตรงกับความสนใจและความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย
  • ติดตามและประเมินผลลัพธ์ของแคมเปญเพื่อปรับปรุงให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

การสร้างเนื้อหาที่เน้นการขาย

  • พัฒนาเนื้อหาที่แสดงให้เห็นถึงคุณค่าและประโยชน์ของสินค้าอย่างชัดเจน
  • สร้างโฆษณาที่ช่วยกระตุ้นการตัดสินใจของลูกค้า
  • ใช้กลยุทธ์ Performance Creative เพื่อเพิ่มโอกาสในการเปลี่ยนผู้สนใจให้กลายเป็นลูกค้าจริง

เศรษฐกิจฝืดกำลังซื้อหด ค้าปลีกปรับกลยุทธ์ | การตลาดเงินล้าน 14 ธ ...

sbb-itb-4ffe5b5

ช่องทางการตลาดที่คุ้มค่าต่อการลงทุน

ในยุคดิจิทัล การเลือกใช้ช่องทางการตลาดที่คุ้มค่าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับธุรกิจที่ต้องการผลลัพธ์ที่ดีในงบประมาณที่จำกัด

ตัวเลือกการตลาดดิจิทัล

การตลาดดิจิทัลเปิดโอกาสให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างคุ้มค่า โดยมีช่องทางที่น่าสนใจดังนี้:

  • โฆษณาบนโซเชียลมีเดีย
    แพลตฟอร์มอย่าง Meta ช่วยให้คุณกำหนดงบประมาณและวัดผลได้ง่าย พร้อมเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพโดยตรง
  • คอนเทนต์ที่เน้นการขาย
    การสร้างเนื้อหาที่มุ่งเน้นการขายช่วยลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มโอกาสปิดการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ด้วยการใช้ช่องทางเหล่านี้ ธุรกิจสามารถนำไปสู่การใช้กลยุทธ์ Performance Marketing ที่เน้นผลลัพธ์และวัดผลได้อย่างชัดเจน

ข้อดีของ Performance Marketing

Performance Marketing เป็นกลยุทธ์ที่ช่วยธุรกิจควบคุมต้นทุนและวัดผลลัพธ์ได้อย่างแม่นยำ โดยมีข้อดีดังนี้:

  • วัดผลตอบแทนการลงทุนได้ชัดเจน
    ระบบติดตามผลแบบเรียลไทม์ช่วยให้คุณเห็นผลลัพธ์ได้ตลอดเวลา และปรับกลยุทธ์ได้ทันทีเมื่อแคมเปญไม่เป็นไปตามเป้าหมาย
  • เพิ่มประสิทธิภาพการตลาด
    Performance Marketing ช่วยให้ธุรกิจ:
    • ทดสอบและปรับปรุงแคมเปญได้อย่างต่อเนื่อง
    • ลดต้นทุนในการหาลูกค้า
    • เพิ่มอัตราการปิดการขาย
    • สร้างรายได้ที่สามารถวัดผลได้จริง

ตารางเปรียบเทียบการใช้งบประมาณ

หัวข้อ วิธีดั้งเดิม Performance Marketing
การวัดผล ยากและไม่ชัดเจน วัดผลได้แบบเรียลไทม์
การปรับแคมเปญ ต้องรอผลนาน ปรับได้ทันทีตามผลลัพธ์
ความคุ้มค่า ประเมินได้ยาก คำนวณ ROI ได้แม่นยำ
ความเสี่ยง สูง เพราะวัดผลลำบาก ต่ำ เพราะปรับปรุงได้ต่อเนื่อง

Performance Marketing จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนและควบคุมต้นทุนได้ง่ายในยุคปัจจุบัน.

การตัดสินใจทางการตลาดด้วยข้อมูล

การใช้ข้อมูลในการตัดสินใจทางการตลาดช่วยให้เราสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่ให้ความสำคัญกับราคาได้อย่างมีประสิทธิภาพ การวิเคราะห์ข้อมูลอย่างละเอียดช่วยให้ธุรกิจปรับกลยุทธ์ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น มาดูตัวชี้วัดสำคัญและวิธีการนำข้อมูลลูกค้ามาใช้งานกัน

ตัวชี้วัดทางการตลาดที่ควรติดตาม

การติดตามตัวชี้วัดเหล่านี้ช่วยให้เข้าใจพฤติกรรมและการตอบสนองของลูกค้าได้มากขึ้น:

ตัวชี้วัด ความสำคัญ วิธีการนำไปใช้
อัตราการปิดการขาย ช่วยวัดประสิทธิภาพของทีมขาย ปรับปรุงกระบวนการขายและการตั้งราคาให้เหมาะสม
ต้นทุนต่อการได้ลูกค้า ควบคุมค่าใช้จ่ายด้านการตลาด สร้างโปรโมชันที่คุ้มค่าและดึงดูดใจ
มูลค่าตลอดชีวิตของลูกค้า ประเมินผลตอบแทนในระยะยาว วางแผนกลยุทธ์ราคาที่เหมาะสมในอนาคต
อัตราการกลับมาซื้อซ้ำ วัดระดับความภักดีของลูกค้า พัฒนาโปรแกรมที่ช่วยรักษาลูกค้าให้อยู่กับธุรกิจ

การติดตามตัวชี้วัดเหล่านี้ ไม่เพียงช่วยให้ธุรกิจเข้าใจลูกค้ามากขึ้น แต่ยังช่วยในการตัดสินใจและปรับแผนการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การนำข้อมูลลูกค้ามาใช้ให้เกิดประโยชน์

ข้อมูลลูกค้าสามารถนำมาวิเคราะห์และปรับปรุงแคมเปญการตลาดได้ โดยแบ่งออกเป็นสองส่วนหลัก:

  • การวิเคราะห์พฤติกรรมการซื้อ
    ใช้ข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้า เช่น:
    • การระบุช่วงเวลาที่ลูกค้ามีแนวโน้มตัดสินใจซื้อ
    • การวิเคราะห์ความถี่ของการซื้อสินค้า
    • การติดตามการตอบสนองต่อโปรโมชันต่าง ๆ
  • การปรับปรุงแคมเปญ
    ใช้ข้อมูลเพื่อปรับแคมเปญให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น:
    • ทดสอบและปรับเปลี่ยนแคมเปญตามผลลัพธ์ที่ได้
    • ปรับเนื้อหาและข้อเสนอให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า

การใช้ข้อมูลอย่างมีระบบช่วยให้ธุรกิจสามารถ:

  • เลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมในการนำเสนอโปรโมชัน
  • สร้างข้อเสนอที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย
  • สร้างความสัมพันธ์ที่ดีและยั่งยืนกับลูกค้า
  • ใช้งบประมาณการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

คู่มือการปรับใช้กลยุทธ์แบบขั้นตอน

หลังจากการวิเคราะห์ข้อมูลและเลือกช่องทางการตลาดแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการนำข้อมูลเหล่านั้นมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทั้งในแคมเปญและการรักษาลูกค้า นี่คือวิธีการดำเนินการอย่างเป็นขั้นตอน:

วิธีวิจัยกลุ่มลูกค้า

การเข้าใจความต้องการของลูกค้าเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพ คุณสามารถเริ่มต้นได้ด้วยขั้นตอนเหล่านี้:

ขั้นตอน วิธีการ ผลลัพธ์ที่คาดหวัง
การวิเคราะห์ข้อมูล ใช้ข้อมูลตลาดที่มีอยู่เพื่อทำความเข้าใจลูกค้า รู้จักพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าได้ดีขึ้น
การกำหนดเป้าหมาย ระบุเป้าหมายธุรกิจและจัดสรรงบประมาณ วางแผนกลยุทธ์ให้ตรงกับเป้าหมาย
การประเมินตลาด วิเคราะห์สถานการณ์ตลาดในปัจจุบัน ปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับสภาพตลาด

ข้อมูลเหล่านี้ควรถูกนำไปทดลองในแคมเปญจริงเพื่อค้นหาจุดที่ต้องปรับปรุงและพัฒนาให้ดีขึ้น

การทดสอบแคมเปญ

การทดสอบแคมเปญเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้คุณปรับปรุงประสิทธิภาพได้อย่างต่อเนื่อง โดยควรให้ความสำคัญกับ:

  • การติดตามผลลัพธ์อย่างละเอียด
  • การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อปรับปรุงแคมเปญ
  • การเรียนรู้จากข้อผิดพลาดที่ผ่านมาแล้วนำไปปรับใช้

"We communicate honestly and openly with our partners. We see failures as progress, and learn to improve businesses." - VenueE Performance Marketing

กลยุทธ์การรักษาลูกค้า

เมื่อแคมเปญเริ่มได้ผล สิ่งสำคัญต่อไปคือการรักษาฐานลูกค้าที่คุณได้มา โดยเฉพาะกลุ่มที่อ่อนไหวต่อราคา การสร้างความไว้วางใจและความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนเป็นสิ่งสำคัญ วิธีที่ควรพิจารณามีดังนี้:

  • การสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวที่เน้นความไว้วางใจ
  • การมุ่งเน้นที่ผลตอบแทนจากการลงทุนให้คุ้มค่า
  • การพัฒนาสินทรัพย์ทางการตลาดเพื่อเสริมสร้างแบรนด์

การทำงานร่วมกับลูกค้าในลักษณะพาร์ทเนอร์ โดยใช้สัญญาแบบรายเดือนที่ยืดหยุ่น พร้อมรายงานผลอย่างโปร่งใสและปรับกลยุทธ์ตามความต้องการ จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นและรักษาความสัมพันธ์ในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

บทสรุป

ประเด็นสำคัญ

ในสภาวะเศรษฐกิจที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับราคาเป็นพิเศษ การปรับกลยุทธ์การตลาดต้องเน้นไปที่จุดสำคัญดังต่อไปนี้:

ประเด็นหลัก แนวทางการดำเนินการ ผลลัพธ์ที่คาดหวัง
การวัดผล ติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก ใช้งบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ความโปร่งใส รายงานผลแบบเรียลไทม์ สร้างความไว้วางใจจากลูกค้า
การเติบโต วางกลยุทธ์ที่เน้นความยั่งยืน รักษาและขยายฐานลูกค้า

การใช้ข้อมูลและการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์อย่างเหมาะสมเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างแคมเปญที่ให้ผลลัพธ์คุ้มค่า บทสรุปนี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการมีแผนที่ชัดเจนและโปร่งใส ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจสามารถตอบสนองต่อความต้องการของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

บริการของ VenueE Performance Marketing

VenueE Performance Marketing

VenueE Performance Marketing เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดที่มุ่งเน้นผลลัพธ์ โดยได้รับการรับรองในฐานะ Meta Badged Partner พร้อมข้อได้เปรียบที่ชัดเจน:

  • จัดการงบโฆษณามากกว่า 60 ล้านบาทต่อปี ด้วยทีมงานที่เชี่ยวชาญในด้าน ROI และรายงานผลอย่างโปร่งใส
  • ทำงานร่วมกับลูกค้าในรูปแบบพาร์ทเนอร์ ไม่มีข้อผูกมัดด้านสัญญา เพื่อสร้างการเติบโตที่มั่นคง

"We're more than just a marketing agency our mission is to 'work with' and 'grow' your business ready for the future." - VenueE Performance Marketing

เลือก VenueE Performance Marketing เพื่อปรับตัวและขยายธุรกิจในตลาดที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับราคา โดยใช้ข้อมูลและกลยุทธ์ที่ให้ผลลัพธ์คุ้มค่าในทุกการลงทุน

venuee performance marketing agency team
ต้องการเพิ่มยอดขาย?
ให้เราช่วยประเมินและวางแผนการตลาด เพื่อปรับ ROI ให้เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ